ชื่อ                   อธิกา  สีตลจิตร

ระดับ               มัธยมศึกษาตอนปลาย

สถานศึกษา        โรงเรียนสารสาสน์วิเทศนิมิตใหม่

ชื่อผลงาน          เงาะป่า 

ชื่อวรรณกรรม   เงาะป่า 

 

บทวรรณกรรม

              ยังมีเด็กน้อยคนหนึ่งชื่อ คนัง อาศัยอยู่ในป่าจังหวัดพัทลุง  คนังเป็นเพื่อนกับไม้ไผ่ วันหนึ่งคนังได้ไปชวนไม้ไผ่ออกไปเที่ยวป่าไปเป่านก หาเผือกหามันตามประสาเงาะป่าในขณะที่คนังกับไม้ไผ่ปิ้งเผือกอยู่นั้น  ชมพลาก็บังเอิญมาเจอเด็กทั้งสองคนพอดี  ก็ล้อมวงมาคุยกัน  ชมพลาก็เลยถามเรื่องลำหับพี่สาวของไม้ไผ่  เรื่องการสู่ขอของฮเนาว่าลำหับคิดอย่างไร  เพราะชมพลาก็แอบชอบลำหับอยู่ส่วนไม้ไผ่ก็ไม่ค่อยสู่ชอบฮเนาเท่าไหร่นัก  จึงสนับสนุนที่พี่สาวตนจะไปรักกับชมพลา  ชมพลาได้ฝากดอกไม้กับไม้ไผ่เพื่อไปให้ลำหับพร้อมกับฝากความในใจ  เมื่อนางลำหับได้รับรู้นั้นก็หวั่นในใจ  แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรไป  ชมพลานั้นได้วางแผนกับไม้ไผ่เพื่อจะชวนลำหับออกมาเก็บดอกไม้  ทันใดนั้นมีงูตัวหนึ่งมารัดที่แขนของลำหับและนางได้เป็นลมไป  ชมพลาที่แอบมองอยู่ก็รีบออกตัวมารับลำหับไว้  เมื่อลำหับตื่นขึ้นมาก็ตกใจที่ตนอยู่ในอ้อมกอดของชมพลา  จึงถอยตัวออกและชมพลาก็ได้ถามถึงอาการด้วยความเป็นห่วง  พร้อมกับพูดว่า “หากเจ้าตายไป พี่นี้จักตายตาม”  นางลำหับได้กล่าวบอกไม่เป็นไร  และขอบคุณที่ช่วยชีวิตตนไว้จะตอบแทนบุญคุณจนชีวิตจะหาไม่  ส่วนเรื่องงานวิวาห์ของลำหับและฮเนาก็กำลังเดินต่อไป  นางลำหับกังวลมาเพราะต้องแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รักเมื่อชมพลารู้  ดังนั้นจึงฝากไม้ไผ่ไปบอกลำหับว่าจะพาหนี  นางลำหับจึงโล่งใจแต่ในการแต่งงานนั้นนางลำหับและฮเนาจะต้องไปอยู่ป่าด้วยกัน  7 วัน  7 คืน ทันใดนั้นอ้ายแกได้ไปขว้างหิน  ฮเนาโกรธมากและออกไปตามหาคนทำ  ชมพลาได้ทีจึงพาตัวลำหับไป  เมื่อฮเนากลับมาและไม่พบลำหับจึงกลับไปบอกทางบ้านว่าชมพลาลักพาตัวนางไป  จึงเป่าลูกดอกอาบยาพิษใส่ชมพลา  เมื่อเจอชมพลาสิ้นใจไปต่อหน้าลำหับ  นางจึงตัดสินใจเอามีดมาแทงตัวตาย  เมื่อฮเนาได้รู้ความจริงทุกอย่างว่าเขาทั้งคู่รักกันจึงเสียใจ  ตนจึงแทนตัวเองตายตามไปเคียงอยู่เป็นสมรภูมิรัก         

 

ข้อคิดที่ได้

               ความรักของหนุ่มสาวนั้นมีอานุภาพที่รุนแรงทำให้บันดาลผู้ที่อยู่ในห้วงรักนี้ทำอะไรเพื่อความรักได้ทั้งนั้นแม้บางครั้งอาจจะต้องแลกด้วยโศกนาฏกรรม  เช่น  ในเรื่องเงาะป่า  แม้ในปัจจุบันอาจมีการตายจากความรักอยู่เสมอๆ  แต่ผู้ใดที่มีความรักผู้นั้นก็มักจะมีความทุกข์ตามมาด้วยเพราะอาจต้องพลัดพรากกันหรือไม่สมหวัง  เพราะฉะนั้นความรักเมื่อรักแล้วก็ต้องมีสติอยู่ตลอด  แม้ว่าในสังคมไหนก็มีความรักและความซื่อสัตย์มั่นคงกับคนรักมันเป็นสัจธรรมที่แท้จริงคือความดี  เหมือนกับเรื่องเงาะป่าแม้ภายนอกจะมีรูปชั่วตัวดำมีความอัปลักษณ์  แต่เป็นคนที่มีจิตใจดีงามมาจากข้างใน  แสดงให้เห็นว่าอย่ามองคนแต่รูปลักษณ์ภายนอก  พร้อมกับเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเคารพรักที่แสดงให้เห็นถึงความกตัญญูกตเวที  ที่นางลำหับยอมทดแทนพระคุณของบิดามารดา  โดยการแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รักเพื่อให้บิดามารดาเป็สุขใจ  แต่ก็ควรต้องคำนึงถึงเหตุและผล ไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจทำสิ่งใดลงไป