ชื่อ                    สราวุธ พนมสวย

ระดับ                ประถมศึกษา

สถานศึกษา        โรงเรียนเทศบาลบ้านหมี่

ชื่อผลงาน          ตลิ่งสูง ซุงหนัก   

ชื่อวรรณกรรม    ตลิ่งสูง ซุงหนัก

 

บทวรรณกรรม

               ช้างก้าวเหยียบลงดินข้างหน้า แล้วยกเท้าถอยกลับ แต่เจอกับเหล็กแหลม  จึงดันไปข้างหน้าอีก วางเท้า แตะดินแล้วสะดุ้งถอยกลับกรูด ร้องเสียงตระหนก คำงายตะโกนห้ามเสียงดังลั่น แต่ไม่มีใครนำพา คล้ายกับพวกเขาอยู่ห่างไกลเหลือเกิน จนติดต่อกันไม่ได้ คำงายพยายามหยุดช้าง แต่มันต้องเผ่นต่อทุกครั้งอย่างหวาดกลัวและเจ็บปวด

คำงายรู้ถึงขีดของแรงนี่เป็นตอนสุดที่จะรับไหว มันหนักเกินแรงมันใหญ่เกินรับ เขารู้ดีว่าต้องหยุดลาก แต่ช้างสะดุ้งผวาหนีสิ่งที่อยู่ข้างล่าง ดินข้างล่างปริและอ่อนนุ่ม ช้างรู้ดีเพียงแค่วางเท้าแตะลงไปก็รู้สึกว่าไม่อาจทานน้ำหนักตัวมันได้ พอเท้าสัมผัสพื้นมันก็เริ่มหดกลับถอยหนี สัญชาตญาณนี้คำงายรู้และเข้าใจ เขาจึงตะโกนเสียงหลงไปทางหลัง ให้พวกเขาหยุด

แต่ไม่มีความหมาย พลายสุดกระชากโซ่ครั้งแล้วครั้งเล่าพลางร้องเสียงกังวาน ซุงขยับเคลื่อน และพลิกผิวดินปริแยก ซุงไถลออกนอกขอบตลิ่ง พลายสุดขืนร่างเหนี่ยว ตัวมันงอจนหัวงุ้มลงจรดพื้น เท้าจิกดินอย่างสิ้นหวังพื้นใต้เท่าปริแตกพังลงไปเป็นกะปิ เสียงดินถล่ม เสียงพื้นสะเทือนคละเคล้าสียงกลองแผ่วเบา คำงายคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกนั้นผ่านแวบไปอย่างเร็ว

 

ข้อคิดที่ได้

                ความสุขจากการให้ความรักกับช้าง คำงายให้ความเมตตาแก่ช้าง คำงายเลี้ยงดูช้าง และช้างให้ความรักแก่เจ้าของช้างได้ช่วยเหลือเจ้าของในด้านแรงงาน ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน