ชื่อ                        ด.ญ.ธันยพร  สุขโต

ระดับ                     ประถมศึกษาตอนปลาย

สถานศึกษา             โรงเรียนบ้านสีน้ำ

ชื่อผลงาน               เพื่อนรักในพงไพร

ชื่อวรรณกรรม         สุวรรณเมกฆะกับหมาขนคำ

 

 

บทวรรณกรรม

 

          ท้าวสุศศา เจ้าเมืองพาราณสีมีมเหสี ๒ คน คือ นางปทุมมาและนางภะติยา ท้าวสุศศาอยากจะได้โอรสให้มเหสีทั้งสอง อธิฐานขอโอรสกับเทวดา นางปทุมมาได้โอรสเป็นคน ๑ ชื่อสุวรรณเมกฆะ กับหมาขนดำ คือหมาที่มีขนสีทอง ๑ ตัว ส่วนนางภะติยาได้ธิดาชื่อนางจันทรเกษีและโอรสชื่อไชยา เมื่อสุวรรณเมกฆะกับหมาขนดำจึงพากันไปอยู่ป่า

          เดินทางไปได้สักระยะหมาขนดำได้ยินเสียงร้องแปร๋นๆ ของช้างมาแต่ไกล หมาขนดำให้สุวรรณเมกฆะหยุดเดินแล้วเข้าไปซ่อนตัวอยู่หลังโขดหินใหญ่ รออยู่ไม่นานมีช้างป่าโขลงใหญ่เดินตัดผ่านทางที่โล่งเตียนด้านหน้าไปยังอีกด้าน ช้างน้อยได้กลิ่นกล้วยสุกงอม สุวรรณเมกฆะแบ่งกล้วยให้ช้างน้อยและสัตว์อื่น ๆ

          ขณะนั้นแม่ช้างรู้สึกว่าลูกหายไปจึงรีบตามหา เมื่อพบว่า สุวรรณเมกฆะกำลังลูบหัวพลายน้อยคิ่นลูกมันอยู่อย่างรักใคร่ แม่ช้างยืนดูเงียบ ๆ ไม่แสดงอาการหวงลูกแล้วหันหลังเดินดุ่มไปเล่นน้ำตามเดิม

          สุวรรณเมกฆะกับพลายน้อยคิ่นพากันไปเก็บผลไม้และกล้วยพร้อมกับเพื่อนนกทุกวันและเก็บมาเพื่อสัตว์อื่นๆ ที่เดินทางไม่ไหว แม่ช้างก็ปล่อยให้พลายน้อยคิ่นกับสุวรรณเมกฆะไปหาอาหารกันตามลำพัง

          สุวรรณเมกฆะกับหมาขนดำให้ชีวิตอยู่ในป่ากับเพื่อนรักคือพลายน้อยคิ่นและนก ลิง สัตว์ต่างหลายชนิดอย่างมีความสุขแบบช่วยเหลือกันและกัน

 

 

แนวคิดและเหตุผล

 

          บทวรรณกรรมเรื่องสุวรรณเมกฆะและหมาขนดำ ที่ชอบเพราะเป็นบทวรรณกรรมไทยน่าอ่าน อ่านแล้วให้คิดถึงป่าใหญ่ มีสัตว์อยู่มากมายหลายชนิด การอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน และคอยช่วยเหลือซึ่งกัน ระหว่างคนกับสัตว์ในป่ามีอาหารผลไม้ก็นำมาแบ่งกินคอยดูแลภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น

          ชื่นชอบตัวละครเอก คือ สุวรรณเมกฆะ เป็นเด็กน้อยที่หนีตายจากเมืองมาอาศัยอยู่ในป่าลึกมีเพื่อนเป็นสัตว์หลายชนิด ซึ่งคอยช่วยเหลือกัน

          ชื่นชอบพี่หมาขนดำ เป็นหมาแสนรู้ รู้ภาษาคนและพูดภาษาคนได้ คอยเป็นห่วงน้องสุวรรณเมกฆะไม่ให้มีอันตรายใดต่อน้อง คอยปกป้องดูแลน้องสุวรรณเมกฆะเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีและเด็กที่มีความรักมีน้ำใจ และแบ่งปันให้กับทุกคน มีความสามัคคีรักใคร่ต่อสัตว์และชาวเมืองด้วยความรักความสามัคคี