ชื่อ ด.ญ.สริตา
บุณยวิสาข์
ระดับ ประถมศึกษาตอนปลาย
สถานศึกษา โรงเรียนสุพรรณภูมิ
ชื่อผลงาน แม่โพสพ เทพธิดาแห่งข้าว
ชื่อวรรณกรรม นิทานคติพื้นบ้านเกี่ยวกับข้าว
บทวรรณกรรม
ข้าวมาจากเทวดาผู้หญิงนามว่าโพสพ
เป็นภรรยาของท้าวสักกะเทวราช พอหมดบุญในสวรรค์และต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์
แต่นางไม่ต้องการ นางต้องการอุทิศเนื้อหนัง
มังสาของนางให้เป็นอาหารเพื่อมนุษย์ได้บริโภค นางจึงขอพรจากท้าวสักกะเทวราช
ขอให้นางได้เกิดเป็นอาหารของมนุษย์เถิด อย่าให้นางมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
เพราะมนุษย์มีชีวิตอยู่อย่างลำบาก ไม่มีอาหารบริโภค
เมื่อได้ประทานพรแล้วนางจึงลงมาในโลกมนุษย์
เป็นหญิงสาวสวยงาม เดินถือดอกปาริชาตจากสวรรค์เข้าไปหาพระฤาษีตาไฟที่นั่งหลับตาภาวนาอยู่ในป่าหิมพานต์
ปกติพระฤาษีตาไฟจะลืมตาปีละครั้งในฤดูดอกปาริชาตบาน
ถ้าลืมตานอกฤดูกาลดวงตาจะไหม้สรรพสิ่งให้เป็นจุณไปหมด
เมื่อพระฤาษีได้กลิ่นดอกปาริชาตจึงแปลกใจว่าทำไมจึงมีกลิ่นดอกปาริชาต
ทั้งๆที่ยังไม่ถึงฤดู จึงลืมตาขึ้นไฟจากดวงตาไหม้นางเป็นจุณ
พระฤาษีสงสัยจึงเอาน้ำรดนางตรงนั้น แล้วอธิษฐานให้นางคืนชีพ เมื่อนางคืนชีพจึงบอกความประสงค์แก่พระฤาษีแล้วร่างของนางก็กลายเป็นเมล็ดข้าว
แนวคิดและเหตุผล
ที่หนูประทับใจ
ซาบซึ้งใจมากสุดคือ ความรัก ความมีน้ำใจและการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของโพสพ
เทพธิดาแห่งข้าวที่ยอมสละตัวเองเพื่อช่วยให้มนุษย์พ้นจากความหิวโหยทุกข์ยาก
ได้รับรู้ว่าชาวนาในวรรณคดียกย่องเคารพและกตัญญูต่อโพสพ ตั้งแต่เริ่มปลูกข้าวไปถึงการเกี่ยว
โดยผ่านพิธีกรรมต่างๆ เช่น พิธีรับขวัญข้าว พิธีทำบุญคุณลาน พิธีเอาข้าวขึ้นยุ้ง
เป็นต้น
การทำนาสมัยก่อนยังแสดงให้เห็นถึงความรัก
ความสามัคคี มีน้ำใจรักใคร่กลมเกลียวกัน จะเห็นได้จากการลงดำนาเกี่ยวข้าว
ลงแขกนวดข้าว แล้วก็มีการร้องรำทำเพลงในระหว่างทำงานร่วมกัน ดูแล้วมีความสุขกว่าชวนนาสมัยนี้มากๆ
นอกจากนี้วรรณกรรมเรื่องนี้สอนให้หนูรู้ว่าเหล่าเทวดาและนางฟ้าที่อยู่สุขสบายบนสวรรค์นั้นจะต้องสะสมบุญตอนที่เป็นมนุษย์เท่านั้น
พออยู่บนสวรรค์ก็จะใช้บุญเก่าที่เคยสะสมไว้ เมื่อหมดบุญก็ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อทำความดีสะสมบุญอีก ดังนั้นถ้าใครทำความดีสะสมบุญไว้มากๆอย่างแม่โพสพคงจะเป็นนางฟ้าเทพธิดาแห่งข้าวตลอดไป
ไม่ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์