ชื่อ น.ส.
ญาณิศา แสงสง่า
ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย
สถานศึกษา โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่
ชื่อผลงาน มอม
ชื่อวรรณกรรม มอม
บทวรรณกรรม
ในที่สุดมอมก็ได้เห็นนายผู้หญิงนอนเหยียดยาวเหมือนหลับ
อยู่ใต้กองดินในหลุม หนูนอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของแม่ มอมมันโจนลงไปคร่อมนายผู้หญิงไว้
ใครเข้ามาใกล้ก็ไม่ยอม เฝ้าแต่ขู่คำรามและแยกเขี้ยวขาว
ตามันมีแววเขียวปัดอยู่ข้างใน คนทั้งโลกเป็นศัตรู คนเหล่านี้ทำให้นายต้องจากไป
คนเหล่านี้ที่ทำให้บ้านที่มันเคยอยู่เคยกินต้องไฟไหม้ไปจนหมดสิ้นไป คนเหล่านี้กำลังจะมาแตะต้องตัวนายผู้หญิงและหนู
จะทำอันตรายอย่างอื่นต่อไปอีก ชายคนหนึ่งเข้ามาใกล้ตัวนายผู้หญิง มอมมันก็งับเข้าที่แขน
เสียงร้องให้คนช่วยลั่นไป
เขายกแขนขึ้นกอดคอมันไว้แน่น
ไอ้มอม เสียงนายกระซิบที่หูมัน มอม นายเรียกมันอีกครั้งหนึ่งด้วยเสียงสะอื้นเหมือนกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
มอมมันไม่ได้ยินใครเรียกชื่อมันมานาน พอได้ยินนายเรียกมันก็ดีใจ
ลิงโลดส่งเสียงร้องหงิงๆ
นายซบหน้าลงบนหัวของมัน
เสียงของนายกระซิบเรียกชื่อมันหลายครั้งไม่พูดว่าอะไรอีก
น้ำตาร้อนผ่าวร่วงบนหน้าและจมูกของมอม นายนั่งอยู่เช่นนั้นอีกนาน
ในที่สุดนายลุกขึ้นยืนช้าๆ คลำหูมันอย่างใจลอยแล้วพูดว่า ไอ้มอม เอ็งชนะข้า
ไปด้วยกัน มา ตามข้ามา แล้วนายก็ออกเดิน มีมอมตามติดไป
คืนหน้าร้อนวันนั้น
ถ้าหากมีใครเดินมาตามถนนราชวิถี ประมาณสักตีสองครึ่งจะได้เห็นชายคนหนึ่งรูปร่างผอม
เสื้อผ้าขาดวิ่น เดินช้าๆ อยู่ข้างถนนอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
ข้างๆตัวมีหมาตัวผู้งามตัวหนึ่ง ปากคาบกิ่งไม้
คอตั้งหางเชิดวิ่งตามเข้าไปด้วยความเบิกบานสุดขีด
แนวคิดและเหตุผล
เพราะเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความซื่อตรงซื่อสัตย์ต่อนายของมันและครอบครัวของนาย
แม้ว่านายมันจะจากไปเป็นเวลานานมันก็ยังคงเฝ้ารอ ที่จะได้พบกับนายด้วยจิตใจที่มั่นคง
ครั้งเมื่อมอมได้มาอยู่กับคุณแต๋ว
ผู้ซึงให้ความรัก ดูแล เอาใจใส่มอมเป็นอย่างดี
ด้วยอาจเป็นเพราะมีฐานะความเป็นอยู่ดี มอมจึงมีโอกาสได้อยู่บ้านหลังใหญ่
อาหารการกินสมบูรณ์ แต่มอมก็ไม่เคยลืมนายของมันได้เลย
และเมื่อได้พบกับนาย
ก็รักใคร่ สวามิภักดิ์ ศรัทธาและภาคภูมิใจไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่านายจะซูบผอม ยากจน
ไม่มีอะไรจะเลี้ยงดูมันก็ตาม
มอมมันก็ไม่ลังเลใจในการที่จะติดตามนายของมันไปทุกหนทุกแห่ง เป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ภักดี
และคิดว่าคงละไม่มีสัตว์ชนิดใด มีความซื่อสัตย์ กตัญญูได้มากเท่าสุนัขอีกแล้ว