ชื่อ                         สามเณรขวัญชัย  อุปันโน

ระดับ                      มัธยมศึกษาตอนปลาย

สถานศึกษา             โรงเรียนธรรมราชศึกษา

ชื่อผลงาน              ทาสกุมภันฑ์

ชื่อวรรณกรรม         สุวรรณหงส์

 

 

บทวรรณกรรม

 

          ในเวลาต่อมาพระสุวรรณหงส์ ได้เสี่ยงทายปล่อยว่าวเพื่อทำนายโชคชะตาบ้านเมือง “ถ้าว่าวติดลมดีก็หมายถึงปีนี้บ้านเมืองจะเจริญกว่าปีก่อน” แต่ที่หน้าแปลกแทนที่ว่าวจะลอยอยู่ในพระนคร ว่าวก็ลอยไปยังเมืองของยักษ์มีชื่อว่า “นครมัตตัง” ปกครองโดยพญายักษ์ “สุวรรณวิก ซึ่งมีพระธิดาผู้ลือโฉมนามว่า “เกศสุริยง”

          ในขณะเดียวกันองค์หญิงเกศสุริยงเฝ้าคอยสุวรรณหงส์อยู่เป็นเวลาหลายวัน นางจึงมองออกไปนอกหน้าต่าง แปลกใจที่พบรอยเลือดนางจึงตามรอยไปถึงป่าลึก จนไม่อาจจะผ่านไปได้อีกแล้ว นางมีความโศกและเสียใจจนหมดสติในป่านั้นเอง  พระอินทร์ทรงรู้สึกสงสารจึงช่วยให้ฟื้นคืนสติ พระอินทร์จึงแปลงร่างให้นางเป็นชายพราหมณ์เดินทางไปตามลำพังได้อย่างปลอดภัย และพระอินทร์ยังได้ประทานน้ำมันทิพย์และศรวิเศษให้นางอีกด้วย น้ำมันนี้สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นได้

          เกศสุริยงในร่างแปลงเดินทางมาถึงศาลาของยักษ์นามว่า “กุมภัณฑ์” เมื่อยักษ์กุมภัณฑ์เห็นผู้บุกรุกก็เกิดความต้องการจะกินนางแต่นางก็ต่อสู้ฆ่ายักษ์ได้สำเร็จ ด้วยความสงสารนางจึงใช้น้ำมันทิพย์ชุบชีวิตให้ฟื้นคืนชีพ หลังจากฟื้น ยักษ์กุมภัณฑ์ก็อ้อนวอนขออภัยสาบานว่าจะเป็นทาสรับใช้นางตลอดไป นางก็ยินดีแล้วก็ออกเดินทาง ยักษ์กุมภัณฑ์จึงให้นางนั่งบนบ่าแล้วก็เดินทาง

          ด้วยความรู้สึกแค้นและดีใจพอๆกัน พระสุวรรณหงส์ขึ้นเรือวิเศษแล้วบินไปยังเมืองมัตตัง ในขณะที่องค์หญิงเกศสุริยงกำลังหลับอยู่ ก่อนจะฆ่านาง พระองค์ได้อธิษฐานว่าหากว่ารักพระองค์จริงขอให้โลหิตมีรสหวาน แต่ทางกลับกันขอให้โลหิตเป็นรสขม หลังจากอธิษฐาน และพระองค์ก็ตัดคอชิมโลหิต ปรากฏมีรสหวานพระองค์ก็ทรุดแล้วร่ำไห้ ยักษ์กุมภัณฑ์รู้ข่าวจึงให้ใช้น้ำมันทิพย์ชุบชีวิตองค์หญิง

          ในระหว่างไปพระนคร เจ้าชายไม่ได้ใช้เรือสุวรรณหงส์แต่ทรงเดินทางด้วยม้าและทั้งคู่ก็มาพบกับยักษ์มีนามว่า “วิรุณเมฆ” ซึ่งเกือบจะทำร้ายพระสุวรรณหงส์แล้ว ถ้าหากยักษ์กุมภันฑ์ไม่เข้ามาขัดขวางและก็ฆ่ายักษ์ วิรุณเมฆได้สำเร็จ

          และแล้วทั้งสองพระองค์ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและนครไอยรัตน์ก็สงบสุขปราศจากเรื่องร้ายแรงทั้งปวงฯ

 

 

แนวคิดและเหตุผล

 

          จากการที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาบทวรรณกรรมแล้วข้าพเจ้าได้เห็นถึงความสำคัญของเรื่อง ข้าพเจ้าได้ยกตัวอย่างตัวละคร เช่นยักษ์กุมภัณฑ์ ทั้งๆที่เป็นยักษ์ที่ดุร้ายแต่กับเป็นยักษ์ที่มีความซื่อสัตย์ต่อผู้ที่ช่วยเหลือก็คือองค์หญิงเกศสุริยงที่มีน้ำใจ คือช่วยเหลือแก่ผู้ที่ตกทุกข์คือยักษ์กุมภัณฑ์ และได้รับการช่วยเหลือตอบแทนจากยักษ์กุมภัณฑ์ตลอด  และยักษ์กุมภัณฑ์ยังให้ความร่วมมือต่อองค์หญิงเกศสุริยงซึ่งหมายถึงความสามัคคีต่อกัน

          ดังนั้นจากเรื่องวรรณกรรมนี้จากจะสะท้อนให้เห็นถึงว่าความมีน้ำใจซึ่งกันและกันเกิดจากการให้ คือการแบ่งปันซึ่งจะได้มาซึ่งความร่วมมือความสามัคคีรักใคร่กลมเกลียวต่อกันในหมู่คณะ ฯลฯ