สัมภาษณ์ ดอย - ธนพงษ์ สีหมอก : ความเป็นไทยที่อยู่ในใจ แม้ตัวจะไกลบ้าน
17 พ.ค. 2564
ดอย - ธนพงษ์ สีหมอก คือเจ้าของผลงาน “ตัวไกล ใจไทย” ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในโครงการจินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทย กับอินทัช ปีที่ 14
เมื่อนึกถึงความเป็นไทยในงานศิลปะ เราอาจนึกถึงแค่ลายกนก และสีแดง น้ำเงิน ขาวที่สื่อถึงธงชาติ แต่ภายใต้จินตนาการของธนพงษ์ สีหมอก หรือดอย เขากลับคิดลึกซึ้งกว่านั้นในการสะท้อนความเป็นไทย ของคนที่อยู่ไกลบ้าน แต่ยังไงก็ยังมีจิตใจความเป็นไทย แม้อยู่ท่ามกลางศิลปวัฒนธรรมของประเทศอื่น โดยที่ไม่จำเป็นต้องสื่อตรง ๆ ผ่านลายกนก หรือธงชาติ
เราได้มีโอกาสพูดคุยกับศิลปินจากโรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลางคนนี้ ที่จะพาเราไปรู้จักกับเขามากขึ้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในการทำงานศิลปะ และเล่าถึงผลงานชิ้นก่อน ๆ รวมไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของผลงานรางวัลชนะเลิศที่เขาคว้ามาในปีนี้
ดอย - ธนพงษ์ สีหมอก
ดอยเริ่มต้นสนใจศิลปะได้อย่างไร
เริ่มสนใจตั้งแต่ตอน ม.1 มีคุณครูที่น่ารักคอยสนับสนุนและซัพพอร์ทให้เราทำงานศิลปะ
เรียนรู้ศิลปะจากที่ไหน
โดยส่วนมากก็ฝึกกับครูแล้วก็ฝึกด้วยตนเองที่บ้านครับ
สไตล์ และเทคนิคที่เราถนัด
ปากกามาร์คเกอร์ สีโปสเตอร์ และสื่อผสม
หมาวัด
"หมาวัด"
ภาพนี้เป็นงานเทคนิคสื่อผสม มีที่มาจากวรรณกรรม “หมาอยู่วัด” โดยได้คอนเซ็ปต์มาจากงานวัด สื่อถึงการที่เรามีหมาเขาจะซื่อสัตย์กับเราถ้าเราซื่อสัตย์กับเขา
แผ่นดินของเรา
"แผ่นดินของเรา"
จากหัวข้อเรื่องในหลวงรัชกาลที่เก้า ผมไปค้นคว้าว่าท่านมีพระราชกรณียกิจอะไรบ้าง เลยเอาแผ่นดินมาทำเป็นโฟม โดยใส่เรื่องราวจากพระราชกรณียกิจเข้าไปข้างใน
บ้านของเรา
"บ้านของเรา"
ภาพนี้เป็นภาพพิมพ์หมึกที่ส่งเข้าประกวดในหัวข้อเกี่ยวกับครอบครัว เป็นภาพบ้านที่จะสื่อว่าการที่เรามี หรือไม่มีครอบครัวมันแตกต่างกันยังไง
ผลงาน “ตัวไกล ใจไทย” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในโครงการจินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทย กับอินทัช ปีที่ 14 www.intouchstation.com/awarded-works/14-029
ที่มาของผลงาน “ตัวไกล ใจไทย” และทำไมถึงเลือกเพลง “คิดถึงเมืองไทย” มาถ่ายทอดเป็นผลงานชิ้นนี้
ผลงานชิ้นนี้ก็สื่อตรงตัวตามชื่อผลงานเลยครับ ถึงเขาจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเขาจะอยู่ประเทศอะไร เขาก็ยังมีจิตใจที่เป็นคนไทย ไม่ว่าเราจะไปไกลแค่ไหน เราก็ยังเป็นคนไทย
เมื่อทุกคนได้ยินคำว่า รักเมืองไทย ก็มักจะคิดถึงแค่การแสดงออกถึงความรักประเทศไทย รักประเพณีหรือวัฒนธรรมต่าง ๆ ของคนไทยในเมืองไทยเพียงเท่านั้น แต่ผมกลับนึกถึงชาวไทยที่ต้องไปอาศัยหรือทำงานที่ต่างประเทศ ว่าพวกเขานั้นรักเมืองไทยหรือไม่
เมื่อผมได้ค้นหาวรรณกรรมหรือบทความต่าง ๆ ก็ได้พบกับบทเพลง “คิดถึงเมืองไทย” ซึ่งเป็นบทเพลงที่ได้ถ่ายทอดถึงความรู้สึกของคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ ว่ารักเมืองไทยและคิดถึงความเป็นไทยมากแค่ไหน เพราะแม้ว่าร่างกายของพวกเขานั้นจะอยู่ในต่างประเทศ อยู่ไกลจากเมืองไทย อยู่ต่างวัฒนธรรม แต่จิตและวิญญาณของพวกเขาก็ยังเป็นคนไทยเสมอ ยังรักและคิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงวิถีชีวิต คิดถึงครอบครัว และคิดถึงหลาย ๆ สิ่งที่ต่างประเทศนั้นไม่มี ผมจึงได้นำบทเพลงดังกล่าวมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้
เทคนิคที่ใช้ในภาพนี้
ผมคิดว่าถ้าเราใช้พวกลายกนก หรือธงชาติในการสื่อความเป็นไทยอย่างเดียวมันจะดูสื่อตรงมากเกินไป แต่ถ้าเรามีอะไรที่แปลกใหม่ และแตกต่างกับคนอื่นมันน่าจะดีกว่า คือเราอาจจะใส่อย่างอื่นแทนก็ได้ที่สื่อถึงความเป็นไทย อย่างภาพนี้ถ้าสังเกตดี ๆ โครงหน้าคนจะเป็นคนอิตาลี แต่ส่วนของลายเส้นจะมีความเป็นไทยอยู่ รวมไปถึงลวดลายตรงพื้นหลังที่ล้อไปกับงานศิลป์ของ “Vincent van Gogh” ขณะที่รูปหัวใจก็จะสอดแทรกความเป็นไทยแม้อยู่ท่ามกลางศิลปวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ
ผลงาน “ตัวไกล ใจไทย” บน Online Exhibition www.intouchstation.com/3d-exhibition
คิดว่าการอ่านวรรณกรรมช่วยเสริมสร้างจินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างไร
การที่เราจะทำงานศิลปะ เราก็ต้องค้นหาข้อมูล และวรรณกรรมก็เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลและแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงานศิลปะครับ
ศิลปะมีประโยชน์อย่างไรกับชีวิตของเรา
ตอนเด็ก ๆ ผมเคยไปตรวจพบว่าสมองผมมันช้ากว่าคนอื่น ผมก็เลยคิดว่า หรือเราควรเก่งด้านอื่นดีกว่า ก็เลยลองด้านศิลปะดู แล้วผมก็พัฒนามาเรื่อย ๆ จนพอขึ้นม.3 ม.4 ศิลปะก็ทำให้ผมเริ่มรู้ทางของตัวเอง ว่าเราควรทำอะไรต่อ และมหาลัยฯ เราจะเข้าอะไร
สามารถรับชมผลงานทั้งหมดในโครงการจินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทย กับอินทัช ปีที่ 14 ผ่าน Virtual Exhibition และซื้อผลงานศิลปะที่ได้รับรางวัลในปีที่ 14 ได้ที่ www.intouchstation.com
รายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เป็นทุนการศึกษาของนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในโครงการบัณฑิตคืนถิ่น
แชร์:
